22 พฤศจิกายน 2554

การเลือกใช้บัญชีเงินฝาก


                "เลือกเปิดบัญชี มีเยอะแยะ เลือกไม่ถูกเลย"
เมื่อไม่กี่วันนี้มีคนมาถามว่า จะใช้เปิดบัญชีเงินฝากประเภทไหนดี มีเยอะแยะไปหมดเลย ก็เลยต้องชวนให้ผู้ถามนั่งลงแล้วค่อยๆ คุยกัน เพราะการเลือกบัญชีเงินฝาก มีประเด็นที่ต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง
เรื่องที่ 1 ทำความรู้จักกับบัญชีเงินฝาก บัญชีเงินฝากมีหลายประเภท ประเภทแรกเป็นประเภทที่ใช้กันเยอะ ๆ คือบัญชีออมทรัพย์ บัญชีประเภทนี้จะเป็นบัญชีที่สามารถฝากถอนได้ตลอดเวลา ดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวันตามจำนวนเงิน และจำนวนวันที่ฝากไว้ ไม่ต้องเสียภาษี ถ้าได้รับดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี
เงินฝากประจำ เป็นเงินฝากที่มีระยะเวลาในการฝากแน่นอน จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด (ซึ่งบางครั้งอาจจะมีให้ก่อนได้) แต่ถ้าฝากไม่ถึงระยะเวลาที่กำหนด จะไม่จ่ายดอกเบี้ยเลย หักภาษีดอกเบี้ยจ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ
เงินฝากกระแสรายวัน เป็นเงินฝากที่ไม่จ่ายดอกเบี้ย (หรืออาจจะมีบ้างอย่างของธนาคารไทยเครดิต) ไม่มีสมุดคู่ฝาก และใช้การถอนด้วยเช็ค ดอกเบี้นต้องเสียภาษี 15% ด้วย
เงินฝากปลอดภาษี เป็นเงินฝากที่กำหนดยอดฝากเท่า ๆ กันทุกเดือนตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 24 เดือน 35 เดือน ได้รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด และไม่ต้องเสียภาษี แต่เงื่อนไขคือ จะต้องมียอดฝากทุกเดือนเท่า ๆ กัน จะเป็นวันไหนก็ได้ขอให้อยู่ในเดือน และ 1 คนมีได้ 1 บัญชีเท่านั้น ธนาคารจะทำเรื่องไปแจ้งสรรพากรว่าได้มีเงินฝากประเภทนี้อยู่
เรื่องที่ 2 ระยะเวลาการฝากเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องจำเป็นกว่าอัตราดอกเบี้ยเสียอีก เพราะบัญชีเงินฝากแต่ละประเภทมีสภาพคล่องที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นการจัดเงินจะต้องเลือกให้สอดคล้องกับกระแสเงินของเจ้าของ ถ้าเป็นเงินที่ต้องหมุนเวียนบ่อย ๆ และต้องจ่ายโดยใช้เช็ค ควรจะเป็นกระแสรายวัน

ถ้าเป็นเงินที่เข้าออกบ่อยๆ ต้องการใช้บัตร ATM ควรจะเป็นออมทรัพย์ แต่ถ้าเงินก้อนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ใช้อะไร ระยะเวลานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป ควรจะใช้เป็นเงินฝากประจำ และถ้าต้องการเก็บเงิน โดยสามารถกันเงินออมได้ทุก ๆ เดือนเท่า ๆ กัน ควรจะเป็นเงินฝากปลอดภาษี

เรื่องที่ 3 อัตราดอกเบี้ย เมื่อเราสามารถเลิอกประเภทได้แล้วให้มาเลือกอัตราดอกเบี้ยว่าควรจะเป็นของธนาคารไหน หรือระยะเวลาเท่าไหร่

ซึ่งเดี๋ยวนี้มีความหลากหลายของเงินฝากจนเริ่มคำนวณดอกเบี้ยไม่ถูกแล้ว เพราะเป็นขั้นบันได วิธีการคือ ให้คำนวนเป็นรายวัน โดยนำ (เงินต้นxอัตราดอกเบี้ย)/365 จะได้ดอกเบี้ยรับใน 1 วัน (ธนาคารนับแบบข้ามคืน) แล้ว x ด้วยจำนวนวันที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยนั้นๆ ถ้าเป็นแบบขั้นบันได ให้คำนวณทีละขั้น แล้วนำมารวมกันเมื่อหมดระยะเวลาฝากเงิน จะได้เป็นดอกเบี้ยรับออกมา ทำแบบนี้เพื่อจะได้เห็นว่า เงินที่ได้รับเป็นเท่าไหร่เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน

เรื่องที่ 4 สถานที่ในการฝากถอน บางคนเดินทางตั้งไกลเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.5% ได้เงินมาอีก 200 บาท แต่เสียค่ารถไปกลับ 500 ไม่คุ้มกันเลย

เรื่องที่ 5 จำนวนเงินที่คุ้มครองจาก พรบ.สถาบันเงินฝาก ซึ่งวันที่ 11 สิงหาคม 54 -10สิงหาคม 55 จะคุ้มครอง 50 ล้านบาทต่อธนาคารต่อผู้ฝากเงิน และหลังจากนั้นไปจะคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อธนาคารต่อชื่อผู้ฝากเงิน (http://www.dpa.or.th/Main.aspx)

ในครั้งหน้า จะมาเล่าให้ฟังเรื่องบัญชีเงินฝาก กับ ตั๋วแลกเงินแตกต่างกันอย่างไร

นายไทยเครดิต
twitter @TCRBank

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น